“ปัญหาการพูด การสื่อสาร” เป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้ป่วยโรคสมอง เพราะเกิดได้จากความเสียหายของสมองหลายตำแหน่ง เกิดตามมาหลังเป็นโรคหลอดเลือดสมอง อุบัติเหตุทางสมอง เนื้องอกที่สมอง หรือเกิดจากความเสื่อมของสมองเอง ในผู้ป่วยสมองเสื่อมและพาร์กินสัน เทคนิคการรักษาแก้ไข จำเป็นต้องวิเคราะห์ปัญหาที่มี สาเหตุที่เกิด และใส่ใจในการรักษาอย่างใจเย็นโดยทีมรักษาที่เชี่ยวชาญ

▶️ ปัญหาด้านการสื่อสาร สื่อความหมาย (aphasia) 
ปัญหาด้านการสื่อสาร สื่อความหมาย (aphasia) มักเกิดจากสมองซีกซ้ายส่วนควบคุมภาษา โดยแบ่งอย่างง่ายเป็นส่วนควบคุมภาษาขาออกและส่วนควบคุมภาษาขาเข้า

  • ส่วนควบคุมภาษาขาออก (expressive aphasia): หากผิดปกติจะพบปัญหาการคิดคำพูด  การจัดเรียงคำ และการพูดเรียกคำออกมาให้เป็นคำ วลี ประโยคไม่ได้ 
  • ส่วนควบคุมภาษาขาเข้า (receptive aphasia): เป็นอีกส่วนสำคัญที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ เพื่อไม่ให้วินิจฉัยผิดเป็นปัญหาอื่นไป 
    • เพราะหากสมองควบคุมส่วนนี้ผิดปกติไป จะพบว่าผู้ป่วยฟังไม่เข้าใจ ดูสับสน 
    • เพราะไม่สามารถรับสารที่ฟังเข้าไป นำสัญญาณประสาทไปแปลผลได้ 
    • เพราะเมื่อสมองประมวลผลไม่ได้ ผู้ป่วยจึงเสมือนสับสน จากการฟังที่ไม่เข้าใจนั่นเอง 
  • ผู้ป่วยรายหนึ่งๆ อาจมีปัญหาทั้งส่วนควบคุมภาษาขาออกและส่วนควบคุมภาษาขาเข้าพร้อมกัน ซึ่งจะมีการฟื้นตัวที่ยากกว่า เรียกปัญหาด้านการสื่อสารประเภทนี้ว่า Global aphasia

▶️ ปัญหาด้านการออกเสียง (dysarthria)
ปัญหาด้านการออกเสียง จากการควบคุมอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการพูดเสียไป (dysarthria) เกิดจากความผิดปกติของสมองหลายส่วน 

  • เซลล์ประสาทสั่งการส่วนบน (เสียงพูดจะมีลักษณะ : พูดลิ้นแข็ง พูดตะกุกตะกัก) 
  • เซลล์ประสาทสั่งการส่วนล่าง (เสียงพูดจะมีลักษณะ : พูดเสียงขึ้นจมูก) 
  • สมองน้อยส่วนซีรีเบลลัม (เสียงพูดจะมีลักษณะ : พูดอ้อแอ้ คุมจังหวะเสียงลำบาก) 

โดยรวมปัญหาด้านการออกเสียงจะส่งผลกระทบต่อความชัดเจนของคำพูด ระดับเสียง และความเร็วในการพูด ทำให้ผู้ป่วยมีปัญหาในการออกเสียงคำได้ไม่ชัดนั่นเอง

▶️ ปัญหาจากอวัยวะส่วนอื่น 
นอกจากปัญหาของสมอง ปัญหาของอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการพูดหรือการได้ยิน เช่น ปาก ลิ้น ฟัน หู เป็นอีกส่วนที่ต้องได้รับการประเมิณว่าไม่ได้ผิดปกติไป ทั้งจากปัญหาที่มีอยู่เดิม(โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ) หรือเป็นปัญหาที่เกิดร่วมขึ้นใหม่ ซึ่งอาจเป็นผลกระทบจากตัวโรคครั้งนั้น

ปัญหาด้านการพูดและการสื่อสาร หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการฟื้นฟูที่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยในระยะยาว ความสามารถในการสื่อสารที่ลดลงไม่เพียงส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังทำให้การเข้าสังคมเป็นไปอย่างยากลำบาก ผู้ป่วยอาจรู้สึกโดดเดี่ยวหรือถูกกีดกันจากสังคม ซึ่งส่งผลต่อความสัมพันธ์ส่วนตัวและความสัมพันธ์ในครอบครัว การสื่อสารที่ไม่เข้าใจกันอาจนำไปสู่ความขัดแย้งและความห่างเหินในครอบครัว

ในด้านการทำงาน ความสามารถในการกลับไปทำงานลดลงอย่างชัดเจน เพราะการสื่อสารเป็นทักษะสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ในหลายอาชีพ นอกจากนี้ ปัญหาด้านการสื่อสารยังเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเครียด ซึมเศร้า และปัญหาทางอารมณ์ โดยเฉพาะในช่วงที่ผู้ป่วยต้องปรับตัวกับข้อจำกัดใหม่ในชีวิตของตนเอง

สำหรับผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาการสื่อสาร ผลกระทบอาจยิ่งรุนแรง เพราะมีการศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านนี้มีโอกาสเกิดโรคสมองเสื่อมสูงกว่าผู้ที่ไม่มีปัญหา นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่การดูแลและฟื้นฟูความสามารถในการสื่อสารควรเริ่มตั้งแต่ระยะแรก

ดังนั้นการป้องกันและฟื้นฟูปัญหาด้านการสื่อสารจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อด้านจิตใจ สังคม และความสัมพันธ์รอบตัว ทั้งนี้ การทำงานร่วมกันระหว่างผู้ป่วย ครอบครัว และผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยในระยะยาว