10 Checklists ช่วยตัดสินใจ เลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ไหนดี?
บทความก่อนหน้า หมอได้เล่าไปเกี่ยวกับข้อควรคิด ก่อนการตัดสินใจ ระหว่างพาผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิง 1. กลับบ้านหรือ 2. ไปอยู่ศูนย์ดูแล
วันนี้ลำดับต่อมา จะขอมาสรุปแนะนำ ตอบคำถามที่ได้รับการถามมาบ่อย ทั้งจากญาติใกล้ชิด คนใกล้ตัว หรือจากผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่หมอดูแลเองว่า… ถ้าหากตัดสินใจแล้ว ว่าจะให้ผู้ป่วยรับการดูแล รักษาต่อเนื่องที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยก่อน “ควรมี checklist อะไรบ้างที่ต้องคำนึงถึง?” เพื่อที่ญาติผู้ดูแล ผู้ป่วยเองจะได้ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดูก่อน จากทางอินเตอร์เนต จากรีวิวผู้เคยไปรับบริการ ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกรายชื่อศูนย์ดูแลผู้ป่วย ผู้สูงอายุมาสัก 2-3 ศูนย์และตัดสินใจไปเยี่ยมชม
อีกทั้งวันนี้หมอจะมา รวบรวมข้อคำถามเพิ่มเติม ที่ญาติผู้ดูแล ต้องอย่าลืม! สอบถามศูนย์ดูก่อน ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ/ศูนย์ดูแลผู้ป่วย ที่จะฝากคนที่เรารักเข้ารับบริการ
10 Checklists ที่ต้องคิดถึงเมื่อต้องตัดสินใจเลือกศูนย์ดูแลคนที่เรารัก
- ตอบโจทย์เป้าหมายของผู้ป่วยในการเข้าอยู่ศูนย์
- บุคลากร ผู้ดูแล แพทย์ประจำศูนย์/แพทย์ตรวจเยี่ยม
- วิธีจัดการกับปัญหาของผู้ป่วย ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
- กิจกรรมประจำวัน
- การกายภาพบำบัด/กิจกรรมบำบัด
- อาหารอร่อย สารอาหารครบถ้วน
- ความสะอาด
- ราคาเหมาะสม โปร่งใสหรือไม่
- ทำเลสถานที่
- การส่งตัวต่อไปรับการรักษาฉุกเฉิน
รีวิว - ถามตัวเองว่า “ถ้าเป็นเรา เราจะอยู่ไหม?”
✅ตอบโจทย์เป้าหมายของผู้ป่วยในการเข้าอยู่ศูนย์
ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ แต่ละท่านมีความต้องการการดูแลต่างกัน มีความต้องการการฟื้นฟูที่แตกต่างกัน หมอขอยกตัวอย่าง เช่น
- ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง มีแขนขาอ่อนแรง เคลื่อนไหวลำบาก การกายภาพฟื้นฟูเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ผู้ป่วยกลับมาใกล้เคียงปกติให้ได้มากที่สุด นอกจากตัวโรคที่ส่งผล ความแข็งแรงของสมองและร่างกายเดิมจะเอื้ออำนวย การเลือกศูนย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำกายภาพอย่างเข้มข้น ฟื้นฟูเช้า-เย็น ย่อมทำให้ประสิทธิภาพการฟื้นตัวเร็วกว่า
- ผู้ป่วยโรคความจำเสื่อมช่วยเหลือตนเองได้ อาจไม่ต้องการการกายภาพฝึกการเคลื่อนไหวแขนขาอย่างเข้มข้ม แต่การฟื้นฟูกระตุ้นความจำให้คงความจำเดิม กระตุ้นการรับความจำใหม่ ย่อมมีประโยชน์มากกว่าในกรณีนี้
- ผู้ป่วยหลังผ่าตัด อาจมีแผลผ่าตัดต้องการการทำแผล ดูอาการ ให้ยาฆ่าเชื้อ ร่วมกับการกายภาพเข้มข้นอย่างเหมาะสม ป้องกันการบาดเจ็บซ้ำของแผล/กระดูกที่ผ่าตัด เร่งเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อไม่ให้ฝ่อลีบ
- ผู้ป่วย/ผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตนเองได้น้อย ต้องการพึ่งพาในการช่วยเหลือดำเนินชีวิตประจำวัน การออกกำลังกายทุกวันให้สมรรถนะร่างกายแข้งแรง ร่วมกับการทำกิจกรรม เข้าสังคมจะช่วยให้ผู้ป่วยดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขและสุขภาพแข็งแรง
ดังนั้นการเลือกศูนย์ที่มีความเชี่ยวชาญตรงกับโรค อุปกรณ์เพียบพร้อม บุคลากรทางการแพทย์เชี่ยวชาญย่อมตอบโจทย์การดูแลผู้ป่วย ผู้สูงอายุได้ดีที่สุด
✅บุคลากร ผู้ดูแล แพทย์ประจำศูนย์/แพทย์ตรวจเยี่ยม
การดูแลผู้ป่วย ผู้สูงอายุที่มีความซับซ้อน โรคประจำตัวมาก ยาหลายชนิด ต้องใช้ทักษะความรู้ทางการแพทย์ในการดูแล ซึ่งเป็นข้อแตกต่างสำคัญระหว่างการพักฟื้นอยู่ศูนย์ดูแลและการดูแลที่บ้าน
ส่วนหนึ่งที่ควรพิจารณาคือ ศูนย์นั้นมีแพทย์เป็นเจ้าของ หรือมีแพทย์ทำการตรวจเยี่ยมเป็นประจำหรือไม่ เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น ความเจ็บป่วยก็ตามมาเป็นเงา
- ที่สำคัญกว่าปัญหาทั่วไปเหล่านี้ คือปัญหาที่หนักขึ้น มีความเสี่ยง เช่น ไอเสมหะมาก ต้องเริ่มดูดเสมหะบ่อย ค่าความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดต่ำ มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคปอดติดเชื้อ การตรวจพบสัญญานเตือนเหล่านี้ แล้วรีบรักษาโดยแพทย์ เช่นดูดเสมหะบ่อยขึ้นทุก2-4ชั่วโมง ให้ยาละลายเสมหะ จัดท่าบนเตียงให้ถูกต้อง ป้องกันการสำลักอาหารลงปอด สิ่งเหล่านี้จะถูกรักษาให้ง่ายขึ้น โรคเบาลง และส่งโรงพยาบาลได้ทันท่วงทีได้เร็วทันการ
ไม่เพียงแต่แพทย์ที่มีส่วนในการรักษาผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์สหสาขา พยาบาลวิชาชีพ ผู้ช่วยพยาบาล นักกายภาพ นักโภชนาการ เภสัชกร ล้วนมีส่วนร่วมในการรักษาความแข็งแรง ฟื้นตัวจากโรคของผู้ป่วยได้อย่างมาก
✅ วิธีจัดการกับปัญหาของผู้ป่วย ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง
ต้องกล่าวว่า การดูแลผู้ป่วย ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยพักฟื้นหลังผ่าตัด ผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านความจำ อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน ผู้ป่วยที่มีภาวะถดถอยทางร่างกาย ผู้ป่วยชราภาพ ที่กล่าวมาทั้งหมด ล้วนคาดหวังว่าการดูแลต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน เช่น
- อาการปวดแขนขาซีกที่อ่อนแรงหลังจากเจ็บป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
- อาการสับสนในผู้ป่วยสมองเสื่อมที่คืนก่อนหน้าผู้ป่วยไม่นอน เช้าวันถัดมาจึงมีอาการสับสนปีนเตียง
ญาติที่ต้องการตัดสินใจเลือกศูนย์ดูแล ควรสอบถามศูนย์ดูแลตั้งแต่วันเข้าชมศูนย์ ว่าเมื่อพบปัญหาต่างๆของผู้ป่วย- ปัญหานั้นจะถูกจัดการอย่างไร
- ปัญหาได้รับการรายงานที่ใคร(แพทย์/พยาบาล?)
- จดบันทึกอย่างไร(มี/ไม่มีการจดบันทึก) และ
- การแก้ไขรักษาให้กลับสู่ปกตินั้นทำอย่างไร
- ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในการใช้พิจารณาเลือกศูนย์ดูแลคนที่เรารัก ให้มั่นใจว่าปัญหาจะไม่ถูกปล่อยละเลย และเห็นเป็นเรื่องปกติของคนแก่!
การบันทึกข้อมูล ปัญหา ที่ดี ครบถ้วน หากผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องได้รับการส่งตัวเข้ารักษาต่อในโรงพยาบาล จะทำให้แพทย์ผู้รักษาต่อ สามารถเข้าใจสาเหตุของโรคได้ เริ่มทำการรักษาได้เร็ว ไม่ต้องมานั่งสืบค้นใหม่ว่าเกิดจากอะไร หากข้อมูลก่อนหน้าได้รับการจด วิเคราะห์ รักษาเบื้องต้นมาแล้ว
✅กิจกรรมประจำวัน
ก่อนผู้ป่วย ผู้สูงอายุตัดสินใจย้ายเข้าไปอยู่ศูนย์พักฟื้นดูแล ญาติสามารถสอบถามการดูแลตั้งแต่ตื่นนอน อาบน้ำแปรงฟัน เช้ดตัวบนเตียง การทานอาหาร กิจกรรมประจำวัน จนกระทั่งเข้านอนเพื่อเป็นข้อมุลประกอบการตัดสินใจได้
เพื่อจะได้เข้าใจบรรยากาศการใช้ชีวิตที่ศูนย์ดูแล ว่าผู้ป่วยจะเจอกับสิ่งใด คนที่เรารักน่าจะชอบหรือไม่ชอบ การดูแลเอาใจใส่ที่ดีที่ปฏิบัติมาเป็นประจำย่อมเป็นคำถามที่ตอบได้ไม่ยาก และควรค่าแก่การได้รับคำอธิบายอย่างใจเย็นจากผู้ดูแลศูนย์
✅การกายภาพบำบัด/กิจกรรมบำบัด
ข้อนี้สำคัญมาก สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในระยะฟื้นฟู การกายภาพบำบัดไม่ใช่เพียงการขยับแขนขาเพียง 10-15 นาทีต่อวัน หรือการทำกิจกรรมไม่ให้เหี่ยวเฉาเท่านั้น
- หากผู้ป่วยและญาติหวังผลให้เกิดการฟื้นฟูได้เต็มที่ กลับมาใกล้เคียงปกติได้มากที่สุด
- แม้ต้องใช้เวลานาน ทางศูนย์ก็ต้องมีแนวทางการฟื้นฟูที่พร้อม บุคลากรที่พร้อม และอุปกรณ์ที่พร้อม เพื่อรองรับความจำเป็นนี้
ส่วนผู้สูงอายุที่ชราภาพ การกายภาพ ออกกำลังกายทุกวัน โดยมีการเฝ้าระวังการลื่นล้ม การบาดเจ็บจากการออกกำลังย่อมต้องได้รับการดูแลทั่วถึงเช่นกัน



นอกจากการกายภาพบำบัด การทำกิจกรรมบำบัดโดยมีเป้าหมายให้ฟื้นฟูกำลังและความถนัดของกล้ามเนื้อมัดเล้กในผู้ป่วยโรคหอลดเลือดสมองหรือในผู้สูงอายุ ให้คล่องแคล่วกระชับกระเฉง ก็จะช่วยคงความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันของผู้ป่วย ผู้สูงอายุได้
หากญาติที่เรารักเป็นผู้ป่วยติดเตียง สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ต้องมั่นใจก่อนการเลือกศูนย์ดูแลคือ เมื่อผู้ป่วยอยู่ในระยะปลอดภัย สัญญาณชีพคงที่ ศูนย์ยินดีที่จะดูแลผู้ป่วยกลุ่มติดเตียง โดยพาลงนั่งรถเข็น หรือ เคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปทำกิจกรรมที่เหมาะสมด้วย
ไม่ปล่อยให้ญาติเรานอนเฉยๆไม่ได้รับการทำกิจกรรมอื่น จนกล้มเนื้อฝ่อลีบและเกิดปัญหาแทรกซ้อนจากการติดเตียง นอนนานตามมา
✅อาหารอร่อย สารอาหารครบถ้วน
ความสุขของเราหลายคนก็มาในรูปอาหารที่อร่อย เวลาทำงานเหนื่อยๆ หรือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ตัวเราเองก็ยังอยากทานอาหารอร่อยเพื่อบรรเทาจิตใจ หากคิดเช่นเดียวกันกับผู้สูงอายุที่เรารัก ยิ่งเจ็บป่วยยิ่งเบื่ออาหาร ไม่อยากทาน ผอมซูบลง
การได้ทานอาหารอร่อย (แต่เหมาะสม ตรงกับโรคผู้ป่วย) มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน จะยิ่งส่งเสริมคุณภาพชีวิต ความสุขของผู้ป่วย ให้มีแรงกายแรงใจต่อสู้กับตัวโรค
✅ความสะอาด
การได้ทานอาหารอร่อย (แต่เหมาะสม ตรงกับโรคผู้ป่วย) มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน จะยิ่งส่งเสริมคุณภาพชีวิต ความสุขของผู้ป่วย ให้มีแรงกายแรงใจต่อสู้กับตัวโรค
ความสะอาดที่บริเวณห้องนอน ห้องน้ำ พื้นที่ส่วนกลางย่อมเป็นตัวชี้วัดความใส่ใจของผู้ดูแลศูนย์ได้เป็นนัยหนึ่ง บางท่านที่เคยสัมผัสผู้สูงอายุ อาจเคยได้ยินเรื่อง “กลิ่นคนแก่” ซึ่งกลิ่นนี้ไม่ใช่กลิ่นที่คนสูงอายุทุกคนแก่ตัวลงจะมีตามมา แต่เป็นกลิ่นจากปัสสาวะอุจจาระที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดทันที ปล่อยไว้ ทำให้อับเหม็น ติดพื้นผิววัสดุต่างๆและฝังแน่นเป็นกลิ่นประจำศูนย์/กลิ่นประจำตัวผู้สุงอายุไป ก่อให้เกิดความรังเกียจผู้สูงวัย ซึ่งแท้จริงแล้ว เกิดจากการไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม มากพอนั่นเอง
✅ราคาเหมาะสม โปร่งใสหรือไม่
การเลือกศูนย์ที่เหมาะกับสภาวะการเงินของผู้ป่วยและครอบครัวย่อมเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องตระหนัก เนื่องจากการดูแลผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงนั้นเป็นเหมือนการเล่นเกมส์ยาว จากข้อมูลปัจจุบัน ราคาศูนย์ดูแลผู้ป่วยรายเดือน มีตั้งแต่ราคาค่าใช้จ่าย หลักหมื่นต้นๆไปจนถึงระดับแสนบาทต่อเดือน
“การจัดสรรเงินที่มีให้เหมาะสม ไม่กระทบต่อสมาชิกในครอบครัวท่านอื่นๆ ผู้ดูแลไม่ทุกข์ ผู้ป่วยเข้าใจ จึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย”
ข้อแนะนำเล็กน้อย จากครอบครัวผู้ป่วยที่หมอได้รับตัวอย่างความเห็นมา เช่น
หากผู้ป่วยอยู่ในช่วงเพิ่งผ่านการเจ้บป่วยหนัก การได้รับการดูแลที่อยู่ในศูนย์ขนาดใหญ่ ได้มาตรฐาน มีการดูแล กายภาพบำบัดเพื่อเร่งการฟื้นตัวอย่างเต็มที่ก่อนช่วงแรก ซึ่งอาจมีราคาสูงหน่อยตามคุณภาพที่สูง แล้วจึงขอย้ายไปพักฟื้นระยะยาวในศูนย์ที่มีราคาย่อมเยาว์ลง เหมาะกับการพักฟื้นระยะยาวก็จะทำให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์สูงสุดและไม่กระทบต่อสภาวะด้านการเงินของครอบครัวในระยะยาว
สิ่งที่ต้องสอบถามเพิ่มเติมจากศูนย์ตั้งแต่วันแรกเข้า คือ ค่าใช้จ่ายแอบแฝงต่างๆ เช่น ราคาถูก แต่ไม่รวมค่าอาหาร ไม่รวมค่ากายภาพบำบัด หากมีการให้อาหารปั่นทางสายยางต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม เป็นต้น
รายละเอียดราคาทั้งหมดที่ต้องจ่ายรายเดือน ญาติควรให้ทางศูนย์ประเมินราคาอย่างครบถ้วนตั้งแต่ต้น ป้องกันการเรียกเก็บเพิ่มเติมในราคาที่สูง แพงกว่าราคามาตรฐานจริง
✅ทำเลสถานที่
ในกลุ่มผู้สูงอายุที่ยังมีสติสัมปชัญญะดี การเลือกสถานที่ใกล้บ้าน เป็นที่คุ้นเคยที่ผู้ป่วยอยู่อาศัย ส่งผลดีต่อทั้งตั้งผู้ป่วยและญาติ ผู้ป่วย
- ผู้สูงอายุมักจะรู้สึกคุ้นชิน และชอบที่จะอยู่/ทำอะไรแบบเดิม สบายใจกว่าที่จะต้องไปอยู่ที่แห่งใหม่ ห่างไกลจากที่อยู่อาศัยเดิม ไม่รู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง
- บุตรหลาน ญาติสามารถเดินทางมาเยี่ยมได้บ่อย โดยไม่รู้สึกว่าการมาเยี่ยมคนที่เรารักนั้นลำบากหรือเป็นภาระที่ต้องทำ
✅การส่งตัวต่อไปรับการรักษาฉุกเฉิน
เมื่อติดต่อขอข้อมูลศูนย์ นอกจากมาตรการการดูแลเมื่อเกิดการเจ็บป่วยฉุกเฉินแล้ว ต้องสอบถามรายชื่อโรงพยาบาลใกล้เคียงที่สุดที่จะได้รับการส่งต่อไปเข้ารักษาตัวด้วย
และหากเลือกได้ (กรณีไม่ใช่ความเจ็บป่วยที่ต้องรีบส่งฉุกเฉิน) ญาติเองก็สามารถแจ้งความประสงค์ ชื่อโรงพยาบาลที่อยากให้ทางศูนย์ดูแลส่งต่อ เช่น โรงพยาบาลที่ผู้ป่วยรักษาประจำ มีข้อมูลการรักษา ข้อมูลการรับยาไว้อยู่แล้วได้
✅รีวิว
ญาติสามารถสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตนเอง จากทางเวบบอร์ด ชมรมผู้ป่วย จากโซเชี่ยลมีเดีย เช่น facebook เป็นต้นได้ก่อนล่วงหน้า
หรือลองปรึกษาแพทย์ พยาบาลที่รักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาล ในช่วงใกล้จะจำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล ว่ามีความเห็นกับศูนย์ที่ตนจะย้ายผู้ป่วยไปอยู่อย่างไร
เมื่อญาติผู้ดูแลไปเยี่ยมชมศูนย์ หากมีโอกาส การพูดคุย ขอความเห็นจากผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ในศูนย์ หรือญาติที่ไปเยี่ยมผู้ป่วยขณะนั้น ย่อมทำให้ได้รับข้อมูลจากผู้ใช้จริงมากที่สุด เพื่อประกอบการตัดสินใจของตนเอง
✅ถามตัวเองว่า “ถ้าเป็นเรา เราจะอยู่ไหม?”
ข้อสำคัญของการไปเยี่ยมชมสถานที่ ศูนย์ดูแลผู้ป่วย/ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุก่อนด้วยตนเอง ไม่เพียงแค่ดูผ่านทางออนไลน์ เพราะ
1. ญาติจะได้เยี่ยมชมสถานที่ บรรยากาศ ความน่าอยู่ อย่าลืมว่า…ภาพถ่ายทำกับสภาพจริงอาจไม่ตรงปกก็เป็นได้!
2. เห็นลักษณะการดูแลสภาพจริง เช่น อาหารจะเสิร์ฟตอนกี่โมง ถ้าทานเองลำบากจะมีผู้ช่วยป้อนหรือไม่ ผู้ป่วยติดเตียงมีการจัดท่าทาง หรืช่วยประคองให้ลุกนั่ง มาทำกิจกรรมบนรถเข็นผู้ป่วยนอกเตียงบ้างหรือไม่
3. เพื่อสุดท้าย ญาติผู้ดูแลและสมาชิกในครอบครัวทุกท่าน จะได้ตัดสินใจร่วมกันได้ว่า…
“หากตนเอง อายุมากขึ้น เจ็บป่วยแบบผู้ป่วย และจำเป็นต้องย้ายบ้านชั่วคราว ไปยังบ้านใหม่ ตัวท่านเองจะอยากมาอยู่ที่บ้านหลังนี้หรือไม่?”
ก่อนจากกันในบทความนี้… หมออยากฝากกำลังใจให้ผู้ดูแลผู้ป่วยทุกท่าน
หมอเชื่อว่าทุกท่านที่อ่านบทความนี้ คงมีความตั้งใจดีที่จะเลือก บ้านใหม่ สถานที่ๆดีที่สุด ที่จะมาช่วยดูแลคนที่เรารัก ไม่ว่าด้านสถานที่ คุณภาพ มาตรฐาน การแพทย์ การบริการ
คำถามที่ว่า “จะเลือกศูนย์ดูแลผู้ป่วย/ผู้สูงอายุที่ไหนดี?” คนที่เข้าใจสถานการณ์ของผู้ป่วยและครอบครัวของตนดีที่สุด คงต้องเป็นคนตอบเอง
บทความโดย
หมอมิ้นท์ พญ.วรัชยา วลัยลักษณาภรณ์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมองและระบบประสาท
สำหรับผู้ป่วยและผู้ดูแลทางบ้านที่มีคำถาม หรือสงสัยเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยโรคสมอง โรคเส้นเลือดสมองตีบ เส้นเลือดสมองแตก ผู้ป่วยโรคสมอง และผู้ป่วยติดเตียง สามารถส่งข้อความคำถามได้ที่เพจ Viva Wellness หรือทางไลน์ @VivaWellness นะคะ หมอและทีมหมอหลายๆท่านจะทยอยตอบคำถามให้ค่ะ
