เราจะทราบได้อย่างไรว่าปลายสายยางให้อาหาร-อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม?
การให้อาหารทางสายยาง ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะถูกป้อนเข้าไปในกระเพาะอาหารเพื่อให้สามารถใช้อาหารที่มีภาวะไฮเปอร์โทนิกหรือเข้มข้นสูง อัตราการให้อาหารที่สูงขึ้น และการป้อนยาแทนการทานเองทางปาก เนื่องจากความจำเป็นได้
การใส่สายยางให้อาหาร (สาย NG หรือทางการแพทย์เรียกว่า NG tube) สามารถใส่ที่หอผู้ป่วยโดยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หรือพยาบาลที่มีประสบการณ์ แต่หากผู้ป่วยกลับบ้านเป็นการดูแลระยะยาวแล้ว จึงมีความสำคัญที่ผู้ดูแล จะสามารถฝึกใส่สายยางให้อาหารเองได้ หรือสามารถทำการตรวจสอบตำแหน่งปลายสายยางเองได้ที่บ้าน
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ
- หลักการวัดความยาวสายอาหารที่ถูกต้อง
- เราจะทราบได้อย่างไรว่าปลายสายยางให้อาหารอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ?
- วิธีการทดสอบตำแหน่งปลายสายยางให้อาหารที่บ้าน
หลักการวัดความยาวสายอาหารที่ถูกต้อง
รู้หรือไม่ : ผู้ดูแลควรยืนยันตำแหน่งปลายสายของ NG tube ทุกครั้งที่ใช้ป้อนหรือให้ยา
เราจะทราบได้อย่างไรว่าปลายสายยางให้อาหารอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
จากประสบการณ์ของหมอ ระหว่างนอน ผู้ป่วยอาจดึงหรือเกี่ยวสาย หลายครั้งทำให้สายให้อาหารผู้ป่วยเลื่อน การฟีดอาหารลงไปเลยทันทีโดยไม่ตรวจสอบก่อน เพิ่มความเสี่ยงในการสำลักอาหารได้
อย่างไรก็ตามไม่จำเป็นต้องเอ็กซเรย์ตราบใดที่ความยาวภายนอกของท่อยังคงไม่เปลี่ยนแปลงและท่อดูด มีค่า pH <5.3
- ในเมืองไทย การตรวจสอบความเป็นกรดของน้ำที่ดูดขึ้นมาได้ทางสายยาง เพื่อวัตถุประสงค์ตรวจสอบตำแหน่งปลายสายอาหารนั้นยังไม่เป็นที่แพร่หลาย
- อย่างไรก็ตาม การทดสอบค่าความเป็นกรดของน้ำย่อย (pH) จะไม่มีประโยชน์หากผู้ป่วยได้รับยาลดกรด เช่น omeprazole, rabeprazole, Lansoprazole, Alum milk เป็นต้น
วิธีการทดสอบตำแหน่งปลายสายยางให้อาหารที่บ้าน
เนื่องจากการทดสอบคอนเฟิร์มตำแหน่งปลายสายยางให้อาหารว่าอยู่ในกระเพาะหรือไม่นั้นมีข้อจำกัด
- ไม่สามารถเอกซเรย์ (fluoroscopy)
- ไม่สามารถทดสอบโดยวัดค่าความเป็นกรดด่างได้
ดังนั้นวิธีที่แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ ในการตรวจสอบตำแหน่งปลายสายยางให้อาหารว่า อยู่ภายในกระเพาะหรือไม่
- คือการตรวจสอบตำแหน่งของท่อโดยการฉีดอากาศผ่านกระบอกไซริ้งค์เข้าไปและฟังฟองอากาศด้วยหูฟังทางการแพทย์นั้นเองค่ะ
- ส่วนการใช้มือจับบนหน้าท้องผู้ป่วยเพื่อรับความรู้สึกของลมที่วิ่งผ่านด้านใต้นั้น ไม่น่าเชื่อถือเท่าที่ควร
หากทดลองดูดอาหารขึ้นมาก่อนให้อาหารมื้อถัดไป สังเกตว่าดูดขึ้นมายาก จะแก้ไขอย่างไร?
สาเหตุมักเกิดจากปลายสายมักติดอยู่กับ “ผนังด้านในของกระเพาะอาหารผู้ป่วย”
วิธีแก้ไข
- ให้ลองเปลี่ยนตำแหน่งของผู้ป่วย เช่น ตะแคงตัวเล็กน้อย
- หากมั่นใจว่าสายไม่เคลื่อน น่าจะอยู่ภายในกระเพาะอาหารแน่นอน ให้ลองฟีดน้ำเข้าไปในสายประมาณ 20-30 มิลลิลิตร เพื่อให้ปลายสายหลุดออกจากผนังกระเพาะอาหารที่ติดอยู่ได้
- การเลื่อนสายขึ้นเล็กน้อยอาจช่วยได้เช่นกัน
เพียงเท่านี้ ญาติผู้ดูแลก็คงสามารถมั่นใจในการให้อาหารทางสายยางผู้ป่วยด้วยตนเอง อย่างปลอดภัยได้มากขึ้น มั่นใจได้ว่าผู้ป่วยจะได้รับสารอาหารที่เพียงพอ และ ลดอัตราการเกิดการสำลักอาหารเช่นกัน
บทความที่น่าสนใจ
บทความโดย
หมอมิ้นท์ พญ.วรัชยา วลัยลักษณาภรณ์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมองและระบบประสาท
สำหรับผู้ป่วยและผู้ดูแลทางบ้านที่มีคำถาม หรือสงสัยเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยโรคสมอง โรคเส้นเลือดสมองตีบ เส้นเลือดสมองแตก ผู้ป่วยโรคสมอง และผู้ป่วยติดเตียง สามารถส่งข้อความคำถามได้ที่เพจ Viva Wellness หรือทางไลน์ @VivaWellness นะคะ หมอและทีมหมอหลายๆท่านจะทยอยตอบคำถามให้ค่ะ







