คู่มือการดูแลผู้ป่วยพาร์กินสัน คู่มือการดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อม คู่มือผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ดูแลผู้สูงอายุอย่างเข้าใจ ปัญหาการขับถ่าย ภาวะที่ต้องระวังในการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงวัยbyadmin ท้องผูกในผู้สูงวัย เกิดจากอะไร? ท้องผูก คืออาการถ่ายอุจจาระลำบาก ต้องเบ่งและใช้เวลานาน อุจจาระมีลักษณะแข็งมาก หลังจากถ่ายเสร็จแล้วยังปวดท้องและมีความรู้สึกว่าถ่ายไม่หมด รวมถึงการถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ อาการท้องผูกในผู้สูงวัยจะมีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย ทำให้เกิดอาการอืดแน่นท้อง ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง ในบางกรณีหากเป็นมากอาจทำให้เกิดความเครียด จิตใจห่อเหี่ยว ส่งผลให้ไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ นอกจากระบวนการย่อยทำหน้าที่ลดลงดังได้กล่าวไปเบื้องต้น ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ที่มีปัญหาท้องผูกมักเกิดจากปัจจัยร่วมหลายอย่าง เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจสาเหตุที่พบบ่อยวิธีการป้องกันและแก้ไข สาเหตุที่พบบ่อย ปัญหาเรื่องฟันและช่องปาก หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอาจสร้างปัญหาการเคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียด ส่งผลให้ท้องอืดเฟ้อหลังอาหาร จนทำให้ไม่อยากรับประทานอาหารได้ รับประทานอาหารที่มีใยอาหารไม่เพียงพอ เนื่องจากกากใยอาหารมักเคี้ยวยาก มีความเหนียว ยากต่อการเคี้ยวบด ผู้สูงอายุจึงมักเลือกรับประทานอาหารนิ่มที่ขาดใยอาหาร ดื่มน้ำน้อย ผู้สูงอายุกับปัญหาปัสสาวะเล็ดหรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เป็นของคู่กัน หลายท่านจึงเลือกที่จะดื่มน้ำน้อยหรือไม่ดื่มระหว่างวันเลย อาการท้องผูกจึงเป็นปัญหาที่ตามมา ขาดการออกกำลังกาย การเคลื่อนไหวร่างกายในผู้สูงอายุเป็นเรื่องยาก อาจเนื่องด้วยกลัวการพลัดตกหกล้ม หรือบางกรณีที่มีอาการป่วยจากโรคเรื้อรัง รวมถึงไม่เห็นความสำคัญของการออกกำลังกาย อาการป่วยเรื้อรัง และได้รับยาบางชนิด ส่งผลให้มีอาการท้องผูก ภาวะเครียดเรื้อรัง มีนิสัยกลั้นอุจจาระ วิธีการป้องกันและแก้ไข แนะนำให้ผู้ป่วยทานอาหารที่มีกากใยสูง แนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง ซึ่งจะมีผลต่อกลไกกระตุ้นปฏิกิริยาที่ทำให้มีการบีบตัวของทางเดินอาหารอย่างเป็นระบบ เกิดการหลั่งฮอร์โมนที่เพิ่มการทำงานของลำไส้ ทำให้บรรเทาอาการท้องผูกลงได้โดยปกติผู้สูงอายุควรได้รับใยอาหารประมาณวันละ 20–35 กรัมแต่ในผู้ที่มีปัญหาท้องผูกควรได้รับอาหารที่มีใยอาหารเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 25–60 กรัม เนื่องจากการรับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูงจะช่วยเพิ่มกากและน้ำหนักในอุจจาระ รวมถึงกากใยยังช่วยอุ้มน้ำ ทำให้อุจจาระอ่อนและเคลื่อนตัวได้ง่าย ช่วยการขับถ่ายให้สะดวก ดัดแปลงอาหารให้มีลักษณะอ่อนนุ่ม ย่อยง่าย เนื่องจากผู้สูงอายุมักมีปัญหาฟันไม่แข็งแรง หรืออาจไม่มีฟันเลย ส่งผลให้บดเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด เกิดอาการท้องอืดเฟ้อ อีกทั้งกากใยอาหารส่วนใหญ่พบในผัก ผลไม้ มีเนื้อเหนียว ยากต่อการเคี้ยวให้ละเอียดการดัดแปลงอาหารให้มีลักษณะอ่อนนุ่ม ย่อยง่าย เคี้ยวง่าย กลืนง่าย จึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยการปรับเปลี่ยนวิธีการประกอบอาหาร ดัดแปลงให้อาหารอ่อนนุ่มลง เช่น การหั่น การสับหรือการปั่นอาหารให้ชิ้นเล็กลงก่อนนำไปประกอบอาหารด้วยวิธีการนึ่ง ตุ๋น หรือการต้มอาหารให้นิ่ม ดื่มน้ำปริมาณเหมาะสม ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว โดยแบ่งดื่มทั้งวัน หรือปรับปริมาณน้ำดื่มให้เหมาะสมกับภาวะสุขภาพของผู้ป่วย ผู้สูงวัยแต่ละบุคคล ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ออกกำลังกายเบาๆ เหมาะสมกับสภาพร่างกาย เช่น เดินเล่นหลังรับประทานอาหาร หรือแกว่งแขนยามเช้า จะช่วยให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหว ช่วยในเรื่องการขับถ่ายได้ดีขึ้น ลดความเครียด ความกังวล ทำจิตใจให้แจ่มใส ฝึกขับถ่ายเป็นเวลาทุกวัน และไม่ควรใช้ยาระบายในผู้สูงวัยนานจนติดเป็นนิสัยทำให้ไม่สามารถขับถ่ายด้วยตัวเอง ใช้ยาที่ปลอดภัยเท่าที่จำเป็น อาจพิจารณาใช้ยาระบาย (stimulant laxative) เช่น Dulcolax เป็นยาระบายที่ออกฤทธิ์ให้เกิดการเคลื่อนไหวแบบบีบรูด และการหลั่งน้ำย่อยเพิ่มมากขึ้น ช่วยให้มีการขับถ่ายอุจจาระ โดยวิธีการใช้ยาระบายอาจให้โดยการรับประทานหรือใช้เหน็บทางทวารหนักก็ได้ อย่างไรก็ตามนอกจากหากพบว่าอาการท้องผูกเกิดร่วมกับอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น น้ำหนักลด ถ่ายเป็นมูกเลือด ลักษณะอุจจาระผิดปกติไป หรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนและรับการรักษาที่ถูกต้อง บทความที่น่าสนใจ อ่านเพิ่มเติม4 สาเหตุ! ทำไมผู้สูงวัยถึงปัสสาวะรดที่นอน?เทคนิคการดูแลการขับถ่ายผู้ป่วยติดเตียง-ป้องกันแผลกดทับเข้าใจปัญหาการขับปัสสาวะของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองไปตามสเต็ป บทความโดย หมอมิ้นท์ พญ.วรัชยา วลัยลักษณาภรณ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมองและระบบประสาท สำหรับผู้ป่วยและผู้ดูแลทางบ้านที่มีคำถาม หรือสงสัยเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยโรคสมอง โรคเส้นเลือดสมองตีบ เส้นเลือดสมองแตก ผู้ป่วยโรคสมอง และผู้ป่วยติดเตียง สามารถส่งข้อความคำถามได้ที่เพจ “VIVA Wellness” หรือทางไลน์ “VIVA Wellness” นะคะ หมอและทีมหมอหลายๆท่านจะทยอยตอบคำถามให้ค่ะ ยินดีให้คำปรึกษาฟรีนัดปรึกษาปัญหาการฟื้นตัวกับหมอมิ้นท์โทร 092-828-6888 หรือแอดไลน์ @vivawellness constiptationกายภาพบำบัดกายภาพบำบัดสโตรกกายภาพบำบัดโรคหลอดเลือดสมองกายภาพสโตรกท้องผูกบ้านผู้สูงอายุปวดแน่นท้องฟื้นฟูสโตรกกับหมอมิ้นท์ศูนย์ดูแลผู้ป่วยศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียงศูนย์ดูแลผู้ป่วยสโตรกศูนย์ดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสโตรกสโตรคอัมพาตเลือดออกในสมองเส้นเลือดสมองตีบเส้นเลือดสมองแตกโรคหลอดเลือดสมอง แนะแนวเรื่อง Previous Postผู้ป่วยมีเสมหะเยอะ อันตรายหรือไม่ ? Next Postปัญหาผู้ป่วยมีเสมหะเยอะ เกิดจากอะไร?