จะจ้าง “ผู้ดูแลผู้สูงอายุ” แบบไหน ทำไมต้องตกลงให้ดีก่อน

การเลือกบุคคลที่สามารถไว้ใจ ในการดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วย บุคคลที่เรารักย่อมเป็นเป้าหมายสูงสุดในการตกลงจ้างผู้ดูแลมาที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นการจ้างผ่านผู้ดูแลโดยตรง(แบบฟรีเเลนซ์) การจ้างผ่านศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ หรือการจ้างผ่านบริษัทเอเจนซี่จัดหาคนดูแลก็ตาม

ปัจจุบันมีเวบไซต์ เพจ กลุ่มเฟสบุ๊คจำนวนมากที่มีประกาศจ้าง-หางานดูแลผู้สูงอายุอย่างอิสระ ไม่มีการควบคุมจากทางภาครัฐ หรือสาธารณสุข

ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า ช่วงหลัง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีปัญหาที่ได้รับการปรึกษาบ่อย และได้ยินคำบอกจากญาติผู้ป่วยหลายท่านมากขึ้น ว่ามักมีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ผู้ดูแลผู้สูงอายุ

  • ฝั่งผู้จ้างบ้างบอกว่า จ้างมาแล้วได้คนไม่ดี ทำงานไม่เป็น ดูแลผู้สูงอายุไม่ได้
  • ฝั่งลูกจ้างบ้างบอกว่า งานหนักเกินค่าตกลงที่ได้รับ เครียด ต้องดูแลตลอด24ชั่วโมง

ปัญหาดังกล่าวนี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ ความสามารถของผู้ดูแล ไม่ตรงกับ ความต้องการ/ความคาดหวังของผู้ป่วยและญาตินั่นเอง

วันนี้หมอจึงจะมาสรุปสั้นๆให้เข้าใจกันเกี่ยวกับผู้ดูแลผุ้สูอายุ ผู้ดูแลผู้ป่วยที่บ้าน ที่มีในปัจจุบัน เพื่อเป็นแนวทางให้ญาติและผู้ป่วยตัดสินใจ นำไว้ใช้เลือกหรือสอบถามความสามารถ ประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยของผู้ดูแล ก่อนตกลงรับเข้าบ้านให้มาดูแลคนที่เรารักค่ะ

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ

  • ปัญหาหนาหูในการจ้างผู้ดูแลปัจจุบัน
  • ผู้ดูแลมีกี่แบบ พร้อมแจกแจงคุณสมบัติและค่าจ้าง
  • 3 ข้อสอบถาม เช็คก่อนตกลงจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุ

ปัญหาหนาหูในการจ้างผู้ดูแลปัจจุบัน

ปัญหาในการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน ขอยกตัวอย่างที่พบบ่อย 8 ข้อดังนี้ค่ะ 
1. คุณสมบัติไม่ตรงกับความต้องการ

  • บางครั้งผู้ดูแลไม่มีประสบการณ์หรือทักษะที่เหมาะสมสำหรับการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะเฉพาะ เช่น ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมหรืออัมพฤกษ์ ผู้ป่วยพาร์กินสัน สโตรก โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น
  • ขาดการฝึกอบรมหรือความรู้ที่ถูกต้อง ทำให้ผู้ดูแลไม่สามารถจัดการกับสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสม และบางครั้งถือว่าเป็นเรื่องอันตรายต่อคนไข้ได้

2. การสื่อสารไม่เข้าใจตรงกัน

  • อาจเกิดปัญหาด้านภาษาหรือการอธิบายความต้องการของผู้สูงอายุที่ผู้ดูแลไม่เข้าใจ

3. ความปลอดภัยของทรัพย์สินและบุคคล

  • ขาดการตรวจสอบประวัติหรือความน่าเชื่อถือของผู้ดูแลก่อนจ้าง อาจเกิดกรณีการขโมยของหรือเงินที่อยู่ในบ้าน 

4. ความขัดแย้งในเรื่องวิธีการดูแล

  • ความแตกต่างในแนวทางการดูแลระหว่างครอบครัวและผู้ดูแล จากที่ผู้ดูแลเคยทำมา ขัดกับที่โรวพยาบาลสอน ขัดกับความเข้าใจของญาติ เป็นต้น

5. ค่าใช้จ่ายสูง

  • ค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้ดูแลที่มีความเชี่ยวชาญอาจสูงเกินไปสำหรับบางครอบครัว โดยเฉพาะการจ้างบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ

6. ความไม่สม่ำเสมอในการปฏิบัติงาน

  • ผู้ดูแลบางรายอาจมีพฤติกรรมขาดความรับผิดชอบ เช่น ตื่นสาย มาสาย หรือหยุดงานโดยไม่แจ้งล่วงหน้า เล่นโทรศัพท์มือถือในเวลางาน แอบไปเข้าห้องนอน ห้องน้ำนานๆ เป็นต้น

7. ปัญหาส่วนตัวของผู้ดูแลที่ส่งผลต่อการทำงาน

  • เช่น ปัญหาสุขภาพ ปัญหาครอบครัว หรือปัญหาทางการเงิน

8. ความเครียดและภาวะหมดไฟในการดูแล

  • ผู้ดูแลอาจรู้สึกเครียดหรือเหนื่อยล้าจากการดูแลต่อเนื่อง ทำให้งานไม่เต็มประสิทธิภาพ ข้อนี้อาจแก้ได้ โดยการตกลงเวลาพักผ่อน วันหยุดให้เหมาะสม ให้อยู่ด้วยกันในครอบครัวได้อย่างมีความสุขค่ะ

ผู้ดูแลมีกี่แบบ พร้อมแจกแจงคุณสมบัติและค่าจ้าง

สรุปสั้นๆให้เข้าใจกันเกี่ยวกับผู้ดูแลผุ้สูอายุ ผู้ดูแลผู้ป่วยที่บ้าน ที่มีในปัจจุบัน

  1. พยาบาลวิชาชีพ (Registered Nurse; RN)
  2. ผู้ช่วยพยาบาล (Practical Nurse; PN)
  3. พนักงานช่วยเหลือคนไข้ (Nurse aid; NA)
  4. แม่บ้าน (Housemaid)

พยาบาลวิชาชีพ (Registered Nurse; RN)

พยาบาลวิชาชีพ เป็นผู้ประกอบวิชาชีพที่มีใบปริญญาด้านการพยาบาลและสอบผ่าน โดยมีระยะเวลาการเรียน 4 ปี มีใบปริญญาตรี มีใบอนุญาตการพยาบาลตามกฏหมาย

  • มีความสามารถในการรักษาขั้นพื้นฐานที่บ้าน การให้ยาทางเส้นเลือดตามคำสั่งแพทย์ เจาะเลือด ให้นำ้เกลือ ใส่สายให้อาหารทางจมูก ใส่สายสวนปัสสาวะ การดูดเสมหะ การทำแผลติดเชื้อ เป็นต้น
  • ค่าจ้างดูแลต่อเดือน ราคาประมาณ 40,000-50,000 บาทต่อเดือน (วันละ 8-12 ชั่วโมง)

ผู้ช่วยพยาบาล (Practical Nurse; PN)

ผู้ช่วยพยาบาล เป็นผู้ผ่านการเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล โดยมีระยะเวลาการเรียน 1 ปี

  • มีความสามารถในการพยาบาลพื้นฐาน เช่น เช็ดตัว ทำแผลเบื้องต้น ดูดเสมหะ เป็นต้น
  • ค่าจ้างดูแลต่อเดือน ราคาประมาณ 15,000-20,000 บาทต่อเดือน (วันละ 8-12 ชั่วโมง)

พนักงานช่วยเหลือคนไข้ (Nurse aid; NA)

พนักงานช่วยเหลือคนไข้ เป็นผู้ผ่านหลักสูตรจากโรงเรียน บริบาล บริรักษ ์ทั่วไป ในหลักสูตรดูแลผู้สูงอายุ โดยมีระยะเวลาการเรียน 6 เดือน ซึ่งหลักสูตรนั้นมาจากกระทรวงศึกษาธิการ คล้ายเป็นโรงเรียนสอนอาชีพ เพื่อมาตอบโจทย์ปัญหสขาดแคลนผู้ดูแลผู้สูงอายุในสังคมสูงวัยปัจจุบัน

  • มีความสามารถในการพยาบาลพื้นฐาน เช่น วัดความดัน วัดไข้ เช็ดตัว ป้อนอาหาร พาลุกเดิน เป็นต้น
  • ค่าจ้างดูแลต่อเดือน ราคาประมาณ 12,000-15,000 บาทต่อเดือน (วันละ 8-12 ชั่วโมง)

แม่บ้าน

บางบ้านที่ผู้สูงอายุช่วยเหลือตนเองได้ ต้องการคนอยู่เป็นเพื่อน ไม่ต้องการการดูแลทางการแพทย์ อาจเลือกจ้างแม่บ้านที่ทำหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุพร้อมทำหน้าที่ทำความสะอาดบ้านได้ ลักษณะงานนี้ขึ้นกับตกลงระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง

  • มีความสามารถในการดูแลกิจวัติประจำวันพื้นฐาน เช่น เช็ดตัว ป้อนอาหาร พาลุกเดิน เป็นต้น
  • ค่าจ้างดูแลต่อเดือน ราคาประมาณ 10,000-12,000 บาทต่อเดือน (วันละ 8-12 ชั่วโมง)

3 ข้อสอบถาม เช็คก่อนตกลงจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุ

จากปัญหาและความเข้าใจข้างต้น… หมอขอแนะนำ “ก่อนที่จะตกลงรับผู้ดูแลผู้สูงอายุ/ผู้ป่วย ให้มาดูแลคนที่เรารักที่บ้าน อย่าลืม!! เช็ค 3 ข้อดังนี้ค่ะ”

  1. สอบถามความสามารถในการดูแล
  2. สอบถามประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยที่ผ่านมา
  3. สอบถามถึงทัศนคติในการดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง

เพื่อประเมินก่อนว่าผู้ดูแลมีคุณสมบัติเพียงพอ และมีความสุภาพ ใจเย็น สามารถสื่อสารได้ รับฟังความต้องการที่เหมาะสมของผู้จ้างได้หรือไม่

รวมถึงมีบุคลิกที่จะห่วงใยและเอาใจใส่ผู้ป่วยที่ต้องการความช่วยเหลือ ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ถนัดคล่องแคล่วเหมือนผู้ใหญ่ทั่วไปอย่างจริงใจหรือไม่

“ไม่ใช่คิดเพียงแต่เป็นการทำงานหนึ่งๆเท่านั้น”

เพราะการดูแลผู้ป่วย ผู้สูงอายุไม่ใช่งานทั่วไป หากแต่ต้องอาศัยความใส่ใจและจริงใจในการทำ

บทความโดย

หมอมิ้นท์ พญ.วรัชยา วลัยลักษณาภรณ์

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมองและระบบประสาท

สำหรับผู้ป่วยและผู้ดูแลทางบ้านที่มีคำถาม หรือสงสัยเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยโรคสมอง โรคเส้นเลือดสมองตีบ เส้นเลือดสมองแตก ผู้ป่วยโรคสมอง และผู้ป่วยติดเตียง สามารถส่งข้อความคำถามได้ที่เพจ Viva Wellness หรือทางไลน์ @VivaWellness นะคะ หมอและทีมหมอหลายๆท่านจะทยอยตอบคำถามให้ค่ะ